วันเสาร์

โสม ราชินีแห่งสุขภาพและความงาม

อาหารเพิ่มความสวยวันนี้แม่หมอสาวขอนำเสนอ เรื่องของโสม ซึ่งว่ากันว่าเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงามตัวแม่เลยนะคะ  .......... โสมเป็นรากของพืชทำให้แห้งอยู่ในตระกูล Araliaceae ซึ่งสามาถแบ่งคร่าวๆมีแหล่งกำเนิดมาจาก3 แหล่ง คือ 1.จากเอเซียเรียก Asian ginseng ( Panax ginseng C.A., Meyer)เป็นโสมจากประเทศ จีน และเกาหลีค่ะ ......... 2.จากประเทศอเมริกา American ginseng ( Panax quinquefolius L. ) ให้ผลการรักษาน้อยกว่าจากเอเซีย........ 3.จากไซบีเรีย  Siberian ginseng ส่วนประกอบจะไม่เหมือนสองชนิดแรก ให้ผลการรักษาอ่อนสุดค่ะ


โสมเกาหลี” เป็นพืชล้มลุก มีรากลึกประมาณ 30ซม มีรากแขนงแตกออกเป็นแฉกอ้วนกลมเป็นทรงกระบอกสีออกเหลืองอ่อน ลำต้นมีความสูงประมาณ 90เซนติเมตร ลักษณะของใบโสมนั้น จัดเป็นใบประกอบ แต่ละใบจะแตกออกเป็นแฉกๆ สีเขียว สำหรับดอกนั้นจะออกเป็นช่อในบริเวณส่วนยอด และง่ามใบสีของดอกจะเป็นสีขาว และผลเมื่อสุกจะเป็นสีแดง การเพาะปลูกต้องใช้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมทั้งอุณหภูมิ ความชื้นและแสงแดด แม้ว่าสภาพที่ไม่เหมาะสม จะไม่ทำให้โสมถึงกับตาย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้รากของต้นโสมนั้นมีความสมบูรณ์  ............ โสมเกาหลีแบ่งเป็น 4 ประเภท ตามวิธีแปรรูปก่อนเก็บรักษาซึ่งชื่อก็จะแตกต่างกันดังนี้ค่ะ

1.โสมแดง  เกิดจากการนำเอารากโสมสดมาตัดแขนงรากออก จากนั้นก็จัดการทำความสะอาดให้หมดสิ่งสกปรก จึงนำไปผ่านการอบไอน้ำประมาณ 3-4ชั่วโมง หรือจนกระทั่งสุกซึ่งโดยมากก็จะไม่เกิน 4 ชั่วโมงเมื่อสุกแล้วจะสังเกตได้จากสีที่เหลืองขึ้นจนเกือบจะใส แล้วจึงนำไปอบให้แห้งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำโสมดิบ ถือว่าเป็นโสมชนิดที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดค่ะ

2.โสมขาว เกิดจากการนำเอารากของโสมสดมาตัดเอารากแขนงออกทำความสะอาด จากนั้นจึงนำลงแช่ในน้ำเดือดประมาณ 8-10นาที แล้วนำขึ้นแช่น้ำเย็นอีก 10นาที ก่อนจะนำมาตากแห้ง นำมาเจาะรูให้ทั่วทั้งราก และนำลงแช่ในน้ำเชื่อมอีก 1-2วัน ก่อนนำไปอบแห้ง ขั้นตอนนั้นจะยุ่งยากกว่าการทำโสมแดง สามารถนำไปแปรรูปใช้บริโภคได้หลายชนิด เพียงแต่จะมีราคาที่ต่ำกว่าโสมแดง ตามคุณภาพที่ด้อยกว่านั่นเองค่ะ

3.โสมแห้ง เป็นโสมที่เกิดจากการนำเอาส่วนของรากโสมสดมาใช้โดยการเอามาตากแดด จัดๆ ก่อนนำไปอบด้วยกำมะถัน ก่อนนำไปตากแห้งให้แห้งสนิทอีกครั้งซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย

4.โสมสกัด เกิดจากการนำเอารากโสมสดมาสกัดด้วยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ ภายใต้การควบคุมในห้องปฏิบัติการ โดยเราจะได้โสมที่สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกสำหรับผู้บริโภคค่ะ

ในปัจจุบันนี้เราสามารถนำรากโสมสดมาแปรรูปได้โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีการที่นิยมในปัจจุบัน แตกต่างจากสมัยก่อนที่เราจำต้องนำมาตากแห้งหรือนำมานึ่ง เพื่อให้เก็บรักษาได้นาน ก่อนแล้วจึงนำมาใช้ ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ทำให้เราได้โสมแปรรูปหลากหลายประเภทกว่าแต่ก่อน มาก ไม่ว่าจะเป็นโสมสกัด เครื่องดื่มจากโสม รากโสมแช่น้ำผึ้ง โสมดองเหล้า หรือเอาไปประกอบอาหารได้อย่างสะดวกโดยไม่ยุ่งยากนะคะ

เรารู้จักโสมแล้ว คราวนี้ก็มาดูประโยชน์ของโสมกันค่ะ


-สาร Adaptogens ในโสม มีคุณสมบัติลดความเครียดลดการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดจากต่อมหมวกไต

-โสมช่วยลดความเมื่อยล้า โดยกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายสร้างพลังงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น และช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ทนต่อภาวะต่างๆ ได้มากขึ้น  สารโปซานินจะช่วยบรรเทาความเมื่อยล้า ช่วยทำให้ผ่อนคลายทั้งจิตใจและกล้ามเนื้อ


-โสมมีส่วนช่วยเพิ่มการสร้างพลังงาน ทำให้นักกีฬามีความทนทานต่อการออกกำลังหนักได้ดีขึ้น และทำให้สามารถนำพาออกซิเจนไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

-โสมช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง โดยการสร้างสาร Interferon ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อไวรัส และกระตุ้นการสร้างโปรตีน Interleukin- 1

- โสมช่วยลดอาการร้อนใน  ร้อนวูบวาบ ในหญิงวัยหมดประจำเดือน

-โสมช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าโสมช่วยรักษาและยับยั้ง ไม่ให้เกิดการลุกลามของอาการกระเพาะอักเสบได้เป็นอย่างดี

-โสมช่วยรักษาโรคมะเร็ง สารบางอย่างที่มีอยุ่ในโสมนั้นสามารถกำจัดและทำลาย พิษรวมไปถึงสิ่งแปลกปลอมที่จะทำให้เซล์เจริญเติบโตอย่างผิดปรกติได้ ได้มีการนำเอาโสมมาทดลองกับผู่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ถึงแม้จะไม่ทำให้หายขาดแต่ก็ช่วยยืดระยะเวลาให้ผู้ป่วยได้เป็นการลดอัตราการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

-โสมช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด โสมมีส่วนช่วยฟื้นฟูและเพิ่มศักยภาพในการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติของร่างกาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย

- โสมช่วยในเรื่องปอดอักเสบ โสมช่วยป้องกันสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปอดอักเสบได้ ด้วยการตัดโอกาสไม่ให้เชื้อโรคลามลงปอดได้

- โสมช่วยในเรื่องตับอักเสบ โสมมีสรรพคุณช่วยกำจัดสารพิษและแอลกอฮอล์ที่ปะปนอยู่ในกระแสเลือดได้เป็นอย่างดี

- โสมช่วยกำจัดโคเรสเตอรอล คอเรสเตอรอลสารโปซานินในโสมมีส่วนช่วยในการกำจัดโคเรสเตอรอล ส่งผลให้ปริมาณคอเรสเตอรอลดีเพิ่มมากขึ้นด้วย และยังช่วยในการเผาผลาญให้ดีขึ้น

-โสมช่วยในการสลายลิ่มเลือด,ลดไขมันในเลือด และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดเกาะตัวกัน

-โสมช่วยในเรื่องโรคเบาหวาน โสมสามารถกระตุ้นให้ตับอ่อน สร้างอินซูลินได้ ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในภาวะสมดุล

-โสมช่วยบรรเทาอาการโลหิตจาง โสมช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดงได้ดีขึ้น สร้างสารเม็ดสีในเม็ดเลือดแดง

-โสมช่วยในเรื่องความดันต่ำโสมทำให้เจริญอาหารมากขึ้น หลับได้นาน อาการปวดเมื่อยต่างๆบรรเทาหายไป และทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น

-โสมช่วยเรื่องเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โสมจะเข้าไปบำรุงระบบไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มปริมาณอสุจิ นอกจากเพิ่มจำนวนแล้วยังทำให้อสุจิแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี

-โสมช่วยขจัดความรู้สึกซึมเศร้า และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซล์อวัยวะและชลอไม่ให้เสื่อมสภาพ

-โสมช่วยทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ และช่วยลดอาการข้างเคียงจากการฉายรังสี


ส่วนอาการข้างเคียงของโสมที่อาจจะพบก็คือ ผิวหนังบวมแดง ตื่นเต้น นอนไม่หลับ ความดันเลือดสูง ท้องเสียช่วงเช้า เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อหยุดกินโสมเองค่ะ....... เป็นอย่างไรบ้างคะ อ่านสรรพคุณของโสม ราชินีแห่งสุขภาพและความงามจบ หายสงสัยกันแล้วใช่มั๊ยคะ ว่าทามม๊ายทามมาย ถึงได้แพงขนาดนั้น ....... แต่แม่หมอว่า อาหารเสริมก็คืออาหารเสริมแหละค่ะ ถ้าเรารับประทานอาหารครบ5หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดูแลการขับถ่าย และทำอารมณืให้แจ่มใส เราก็สามารถมีสุขภาพดีและมีความงามเสถียรได้โดยไม่ต้องพึ่งโสม เลยละค่ะ  .......

1 ความคิดเห็น:

  1. ขายโสมเกาหลี ซื้อมามากทานไม่ทัน ติดต่อ โทร. 080-3503179 ค่ะ

    ตอบลบ

เพื่อน ๆ แม่หมอสาว