สวัสดีค่ะเพื่อนๆขา ..... บอกลาความอ้วนวันนี้แม่หมอจะพาเพื่อนๆไปขี่ จักรยานกันค่ะ ..... อันที่จริงจักรยานเป็นกีฬาที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัยนะคะ .....โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาจมีปัญหาเรื่องเข่าซึ่งไม่ควรออกกำลังกายโดยการวิ่ง เลี่ยงมาขี่จักรยานก็ดีนะคะ ..... การขี่จักรยาน เป็นการออกกำลังที่เป็นจังหวะ ไม่หนักต่อไขข้อต่างๆ และยังเป็นประโยชน์ต่อหัวใจด้วยนะคะ ....... หรือจะขี่จักรยานแบบออกแนวท่องเที่ยว ทัศนศึกษาก็จะมีโอกาสได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามข้างทางไปด้วยในตัวค่ะ ...
การขี่จักรยานเป็นวิธีการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพสูงมากวิธีนึงนะคะ ..... คือใช้แรงหน่อยเดียวแต่ไปได้ไกลเยอะ ถ้าเทียบกับแรงที่ออกไปเท่าๆกัน ...... ที่เป็นเช่นนี้เพราะในการขี่จักรยาน น้ำหนักตัวส่วนบน นับจากส่วนที่นั่งบนอานขึ้นไปจนถึงหัวของคนขี่ จะถูกถ่ายลงไปบนอานและมือจับ ขาไม่ต้องรับน้ำหนักส่วนนี้เลย จึงเบาแรงไปตั้งเยอะ และกล้ามเนื้อที่ใช้ในการขับเคลื่อน ก็เป็นกล้ามเนื้อชุดที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายมนุษย์ คือกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าและกล้ามเนื้อน่องนั่นเองค่ะ ........ นอกจากนี้ การทำงานหรือขยับขาถีบของเรายังเป็นการถีบออกจากตัวในทิศทางลงดิน ซึ่งเป็นท่าที่เราถนัดที่สุด จึงเป็นการใช้งานได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพที่สุดด้วยนะคะ ........โดยการขี่จักยานก็เหมือนการออกกำลังกายชนิดอื่นๆที่ต้องมีการอบอุ่นร่างกายก่อน และมีการยืดเส้นเอ็นป้องกันน่องโตก็จะดีนะคะ....
การขี่จักรยานควรขี่ด้วยความเร็วพอเหมาะ ....... ถ้าเราขี่จักรยานบนทางราบด้วยความเร็วน้อยกว่า 20 กม./ชม. อย่างนี้ถือว่าช้าไปค่ะ จะไม่เกิดสภาพที่ต้องการ และเป็นประโยชน์ต่อหัวใจน้อยนะคะ ..... ถ้าขี่จักรยานด้วยขนาดความเร็วกว่า 30-32 กม./ชม. ก็จะเทียบได้เท่ากับการวิ่งความเร็วประมาณ 3 นาทีเศษต่อกิโลเมตร ....... โดยทั่วไป เราควรถีบจักรยานอยู่ในช่วงความเร็วประมาณ 25 ถึง 28 กม./ชม. .......ตอนเริ่มใหม่ๆเราอาจถีบไปสัก 20 นาทีก็พอ แล้วพักจนชีพจรกลับมาเป็นปกติ แล้วก็เริ่มซอยขาใหม่ต่ออีกจนรู้สึกเหนื่อยแบบสบายๆ คือเหนื่อย แต่ไม่ใช่เหนื่อยมากจนเกินไปนะคะ...... ถ้าคุ้นเคยแล้วควรเพิ่มเป็นประมาณ40นาทีก็จะดีค่ะ ....
การขี่จักรยานทำให้สุขภาพดีร่างกายฟิต กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ......... การขี่จักรยานโดยเฉลี่ยจะใช้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี/ชม. ซึ่งการใช้พลังงานขนาดนี้ถ้าทำสม่ำเสมอก็จะสามารถลดความอ้วนได้อีกด้วยนะคะ ........ แต่ต้องระวังเรื่อง บางคนขี่มากๆแล้วปวดหลัง เพราะขี่เสือหมอบแล้วมันต้องก้มลงไปหมอบเกือบตลอดเวลา
การปั่นจักรยานอยู่กับที่หรือจักรยานฟิตเนส ....... เป็นจักรยานชนิด ที่ช่วยให้เราได้ใช้พลังงานในการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่งมีข้อดีอยู่มากมายนะคะ .......ใกล้เคียงกับการวิ่งจ๊อกกิ้งในการเผาผลาญพลังงานแถมยังดีกว่าตรงที่ไม่มีแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกับข้อต่อต่างๆคล้ายกับการเต้นแอโรบิคในน้ำเพียงแต่บางคนอาจจะรู้สึกเบื่อ แต่ก็มีวิธีการแก้เบื่อโดยนำจักรยานไปปั่นหน้าTVและดูรายการที่เราชื่นชอบไปด้วยปั่นไปด้วยก็จะเพะลิดเพลินค่ะ .....
การปรับเบาะจักรยานก็สำคัญนะคะ ........ สำหรับผู้ที่มีอายุมากขึ้น อาจปรับให้เบาะไม่ต้องสูงมากนัก เพราะถ้าเกิดหน้ามืด ยังล้มหรือตกลงมาจากที่นั่งไม่สูงนัก แรงกระแทกจะน้อยลง........ แต่ถ้าต้องการให้เป้นprofessional หน่อยก็ปรับสูงขึ้นมานะดับสะโพกบนหรือ ระดับสะดืออะค่ะ และแฮนด์จับควรอยู่ระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าเล็กน้อย ........
การขี่จักรยานน่าจะเหมะสำหรับคนที่ปวดหลัง......... เป็นการออกกำลังกายที่น่าจะดีกว่าการวิ่งเพราะไม่มีแรงกระแทกน้ำหนักตัวตั้งแต่ก้นไปจนถึงศีรษะ .........อานจะเป็นตัวรับน้ำหนักไว้ น้ำหนักตัวทั้งหมดจะตกที่อานกับที่รองนั่งฉะนั้นเวลาถีบจะไม่มีแรงกระทำต่อข้อต่อมากค่ะ ...... แต่การปรับเบาะอาจไม่ต้องสูงมาก และให้แฮนด์อยู่สูงกว่าระดับเบาะค่ะ ......
การขี่จักรยานเสือภูเขา ............. เป็นจักรยานที่ใช้ในการผจญภัย ให้ความสนุกสนานเป็นประโยชน์หลายทางทั้งร่างกายและจิตใจแต่อย่างไรก็ตามก็มีอันตรายอยู่บ้างหากมีการล้มค่ะ .....
สรุปข้อดีของการขี่จักรยานนะคะ ........ ทำให้หัวใจแข็งแรง - ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง สามารถออกกำลังกายได้ทั้งปี ทุกสภาพอากาศ - สามารถออกกำลังกายได้โดยลำพังคนเดียว -การขี่จักรไม่ต้องใช้ทักษะมากค่ะ
ส่วนข้อเสียของการออกกำลังกายโดยการขี่จักรยาน ...... ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงเพราะต้องสมัครเป็นสมาชิคกรณีที่เข้าฟิตเนส.......หากจะซื้อไว้ใช้เอง ต้องเรียนรู้วิธีการขี่อย่างถูกต้องนะคะ ....... บางคนอาจจะเจ็บก้นเนื่องจากขนาดก้นและเบาะรองนั่งไม่สมดุล ซึ่งสามารถปรับได้ค่ะ .....
ขี่จักรยานกับสวยใสๆสไตล์แม่หมอ ก็จบลงด้วยประการฉะนี้แหละค่ะ .... แม่หมอขอเตรียมตัวไปปั่นจักรยานในฟิตเนสก่อนนะคะ ไปแล้วคร้า บ๊ายบาย ........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น