เรื่องของรองเท้า

รองเท้าเป็นเรื่องสำมะคัญมากนะคะ ...ทำให้คนธรรมดากลายเป็นเจ้าหญิงได้  ก็จากนิทานซินเดอเรล่างัยคะ ...... อ๊ะล้อเล่น เรื่องจริงๆก็คือ รองเท้าเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตยุคปัจจุบัน เราใส่เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งต่างๆเข้ามากระทบกระแทกให้เท้าบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนของพื้นผิวดิน พื้นผิวถนน เศษอิฐ เศษหินหรือของมีคม ....จริงกว่านั้นก็เพื่อสุขภาพที่ดีเนื่องจากเท้าต้องรองรับน้ำหนักตัวของเราตลอดเวลาที่เรายืนหรือเดิน  .... แต่จริงที่สุดก็คือ รองเท้าเป็นส่วนเสริมบุคคลิคให้ดูดีขึ้นได้แบบเฉียบพลันเลยละค่ะ ....เรามาว่าด้วยเรื่องของวัตถุประสงค์การใส่กันก่อนดีกว่านะคะ......

- ใส่อยู่บ้าน จะในตัวบ้านหรือนอกตัวบ้าน รองเท้าแตะเหมาะสุดค่ะ ซึ่งจะเป็นแตะคีบแตะไขว้ แตะคุณนาย แตะคิตตี้ ก็แล้วแต่ใจปราถนานะคะ ... ซึ่งแม่หมอว่าแตะแบบลำลองมากๆ นอกจากใส่อยู่บ้าน อีกที่ๆควรใส่ก็จ่ายตลาด หรือใส่เดินชายทะเลอะค่ะ.... นอกนั้นใส่อย่างอื่นน่าจะเหมาะกว่านะคะ                 


- ใส่่เดินทาง ถ้าต้องไปท่องเที่ยวไกลๆที่ต้องเดินนานๆ  น่าจะหารองเท้าที่ใส่สบาย และต้องไม่ถอยป้ายแดงออกมาเพราะ ถ้ารองเท้ากัดจะทำให้ทริปนั้นหมดสนุกไปเลยค่ะ..... แล้วอีกอย่างที่ต้องระวัง ประเภทเอารองเท้าที่ไม่ได้ใส่นาน(มาก) ไปใส่เวลาไปเที่ยว อาจประสบปัญหาส้นหรือพื้นรองเท้าหลุดเพราะกาวหมดอายุนะคะ .... สำหรับสาวเปรี๊ยวที่โปรดปรานการใส่บูธ เหมาะสุดก็ใส่ตอนไปเมืองนอกนี่แหละเพราะเมืองไทยร้อนปานนี่ท่าจะหาโอกาสใส่ยากนะคะ


- ใส่ทำงาน แม่หมอเชื่อเลยว่าสาวออฟฟิศส่วนใหญ่จะมีแคทชูดำยืนพื้นจะสูงหรือเตี้ยไม่ว่ากันหละใช่มั๊ยคะ....แต่ถ้าอยากให้ชีวิตดูมีสีสรรซักหน่อย ก็ลองเปลี่ยนสไตล์จากแคทชูมาเป็นรองเท้าทรงโปร่ง หรือ แนวแฟชั่นดูบ้างก็เข้าท่านะคะ .....  แล้วสีก็ใส่ให้matchกับเสื้อผ้าหน้าผม แถม กระเป๋าถือสีโทนเดียวกันเข้าไปอีก ... แหล่มเลยละค่ะ..... หรือถ้าเพื่อนๆอยากบีบมะนาวให้ชีวิตอีกซักหน่อย  ก็ลองเป็นส้นเข็มสูง หรือส้นตึกดู ก็จะช่วยเสริมบุคคลิกได้อีกมากเลยนะคะ

-ใส่ไปงาน อันนี้เวอร์ได้เวอร์ไปเลยค่ะ (ถ้าอยากจะเวอร์) หรือจะเน้นที่เรียบหรูดูคลาสสิคก็ดีนะคะ ... เอาเป็นว่านานๆมีโอกาสซะที ก็น่าจะใช้โอกาสนี้ใส่รองเท้าที่ดูเป็นพิเศษหน่อยก็เข้าทีดีนะคะ

-ใส่ออกกำลังกาย อันนี้ไฟล์ทบังคับ ห้ามใส่ผิดประเภท อาจเป็นอันตรายได้ค่ะ  รองเท้ากีฬาเองก็มีหลายประเภทให้เลือกตามประเภทกีฬานะคะเดี๋ยวนี้อะค่ะ

-ใส่ลำลอง อันนี้จะสูงเสียดฟ้า หรือต่ำติดดินก็ต้องแล้วแต่รสนิยมแล้วค่ะ....  แต่แม่หมอว่า ผู้หญิงเราใส่รองเท้ามีส้นซักหน่อยก็จะทำให้บุคคลิคดีนะคะ อย่างน้อยๆก็1.5-2นิ้วอะค่ะ .... เดี๋ยวนี้รองเท้าเพื่อสุขภาพมีออกมามากมาย แต่รูปทรงมักจะสวนทางกับแฟชั่น แต่ถ้าตั้งใจเลือกกันจริงๆ แบบไม่โบราณมากก็มีนะคะ

-ใส่เดินกับแฟน ความจริงในชีวิตที่เหมือนฟ้าชอบเล่นตลกก็คือ ผู้หญิงตัวเล็กมักมีแฟนตัวโต  ผู้หญิงตัวโตมักมีแฟนตัวเล็ก ... อ๊ะ จะตัวเล็กตัวโตแม่หมอไม่เกี่ยวแล้วกันนะคะ  แต่ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ค่อยชอบให้ผู้หญิงสูงกว่า  เพื่อนๆจะเลือกรองเท้าก็อย่าลืมกะประมาณความสูงของหวานใจคนข้างกายด้วยนะคะ

             ทั้งนี้ รองเท้ากับสุขภาพเป็นเรื่องที่เกี่ยวกันโดยตรงเลยนะคะ  ข้อดีของรองเท้าส้นสูงก็คือเสริมบุคคลิก ข้อเสียคือ อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อาจเป็นเส้นเลือดขอด ปวดหลังปวดน่องตามมา เพราะฉะนั้นสาวๆที่ชอบใส่ส้นสูง ต้องมีวิธีการดูแลสุขภาพตัวเองเพิ่มเติมจากสาวๆที่ใส่รองเท้าส้นเตี้ยนะคะ เช่น อาจต้องนวดเท้า นวดน่อง หรือออกกำลังกายนิ้วเท้าอุ้งเท้า และอาจต้องสลับมาใส่รองเท้าเตี้ยบ้างบางครั้งค่ะ  

             อีกเรื่องนึงก็คือลักษณะรูปเท้าของแต่ละคนไม่เมือนกัน .....  ถ้าเท้าแบนแห้งน่าจะพรางด้วยรองเท้าที่มีสานด้านบนหรือเป็นลวดลาย ..... ถ้าปลายเท้าบานไม่ควรใส่รองเท้าหัวแหลมเพราะอาจบีบทำให้เจ็บได้.... ถ้าเท้าอวบมีเนื้อมากควรเลี่ยงรองเท้าที่เปิดมากเกินไปจะทำให้เห็นเนื้อส่วนเกินค่ะ 

             จะใส่รองเท้าให้สวย เท้าควรจะสวยด้วยนะคะ  ... การทำความสะอาด ใช้แปรงขัดบ้าง ดูแลซอกเล็บอย่าให้สกปรก และลงครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เท้าดูดีมีสุขภาพและใส่รองเท้าสวยค่ะ ส่วนจะทาเล็บหรือไม่นี่เป็นความชอบส่วนบุคคล.....  แต่สมัยนี้เค้าเพนท์เล็บแฟชั่นกัน มีสารพัดแบบให้เลือก ก็น่าจะลองอินเทรนด์ดูซักหน่อยรสชาติของชัวิตนะคะ

             เรื่องสุดท้ายนะคะ  รองเท้าซ่อมได้ค่ะ ไม่ว่าจะ มีร่องรอยขาดไปบ้างส้นชำรุด  ส้นเปิด หรือส้นเริ่มจะหลุด นำไปร้านซ่อมเลยค่ะ อย่าใส่แบบเยินๆนะคะ เสียเซลฟอย่างแรงค่ะ ... และเมื่อเรากลับเข้าบ้านควรทำความสะอาดรองเท้าก่อนเก็บทุกครั้งจะทำให้ดูใหม่ สะอาด และเป็นการป้องกันเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นกับรองเท้าเราได้ด้วยค่ะ

             หนึ่งในเคล็ดลับสวยเสถียร สวยกันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของสวยใสๆสไตล์แม่หมอก็จบลงด้วยประการฉะนี้แลค่ะ ...... บ๊ายบาย
-  

แต่งเติมเสริมบุคคลิก