วันเสาร์

เซลลูไลท์ ศัตรูตัวฉกาจของความงาม

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ บอกลาความอ้วนในสวยใสๆสไตล์แม่หมอวันนี้  จะพาเพื่อนๆมาลดเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของความงาม....... ทำให้สาวๆ ไม่กล้าเผยผิวใสๆให้ใครเห็นนี่แหละค่ะ  ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าเซลลูไลท์ คืออะไรนะคะ .................. เซลลูไลท์เป็นเซลล์ก้อนไขมันที่มีขนาดใหญ่ อยู่ใต้ผิวหนังที่อัดกันอยู่อย่างหนาแน่นซึ่งจะนูนขึ้นมาที่บริเวณผิวหนังจะเป็นตะปุ่มตะป่ำ บริเวณนี้เรียกว่า เซลลูไลท์ หรือเรียกว่าผิวเปลือกส้ม ไขมันนี้จะพบได้ทั้งในคนผอมและคนอ้วน โดยพบในเพศหญิงมากกกว่าเพศชายซึ่งร่างกายจะสามารถสะสมได้ที่บริเวณ ท้องแขน หน้าท้อง ต้นขา และสะโพกค่ะ

สาเหตุการเกิดเซลลูไลท์ มีดังนี้ค่ะ.............   อาจเกิดจากร่างกายมีการเผาผลาญที่ผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถเผาผลาญไขมันใต้ผิวหนังออกจากร่างกายได้หมด........  การรับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินความจำเป็น ทำให้ร่างกายสะสมเซลลูไลท์..........  การออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ หรือขาดการออกกำลังกายซึ่งเป็นอีกสาเหตุของการสะสมเซลลูไลท์ เพราะไขมันจะจับตัวเป็นกลุ่มก้อนและมีการขยายใหญ่ขึ้นที่ใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังตรงนั้นมีลักษณะเป็นริ้วคลื่น............. รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย toxin เช่นไขมัน ของทอด สุรา น้ำตาล หากรับประทานอาหารเหล่านี้มากเกินไปจะทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกหมดเกิดการสะสม....... หรืออาจเกิดจาก กรรมพันธุ์  หรือการดื่มน้ำน้อย .......  เซลลูไลท์มักจะพบมากในคนที่รับประทานยาคุมกำเนิด หรือหลังคลอดเนื่องจากร่างกายมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงก็ได้นะคะ

โทษของเซลลูไลท์ ......... การเกิดเซลล์ลูไลท์ ส่งผลต่อการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง  ส่งผลต่อระบบขับของเสียในร่างกายจะเกิดความผิดปกติ (เซลลูไลท์มักจะเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเนื่องจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในผู้หญิงเรียงเป็นแนวตั้งและมีปริมาณไขมันสะสมมาก ส่วนของผู้ชายเรียงเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเล็กๆและมีปริมาณไขมันสะสมน้อย จึงไม่พบเซลลูไลท์ในผู้ชาย)

ระดับความรุนแรงของปัญหาเซลลูไลท์......... มี3ระดับคือ 1. น้อย - มองเห็นผิวเป็นริวคลื่นเมื่อมือไปสัมผัส 2. ปานกลาง - มองเห็นผิวเป็นริวคลื่นเมื่อยืน 3. มาก - มองเห็นผิวเป็นริวคลื่นตลอดเวลา เรามาดูประเภทของ “เซลลูไลท์”เพิ่มเติมกันอีกนิดนะคะ  มีทั้งหมด4ประเภทค่ะ

Hard Cellulite: พบได้บ่อยในผู้หญิงที่อายุน้อย (20-40 ปี) และมีการออกกำลังกายเป็นประจำ ลักษณะที่พบ คือ เมื่อบีบตามร่างกายจะเป็นก้อนแข็งเล็กๆ พบบ่อยบริเวณสะโพก และบั้นท้าย

Flaccid Cellulite: พบได้ในผู้หญิงอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย มีลักษณะเป็นก้อนไขมันนุ่มๆ มีการหย่อนคล้อย กล้ามเนื้ออ่อนเหลว พบบ่อยบริเวณท้องแขน คาง รอบเอว และหน้าท้อง

Edematous Cellulite: เกิดจากการไหลเวียนโลหิตไม่ดี มีการคั่งของน้ำเหลือง ทำให้ลักษณะเหมือนบวมน้ำ กดแล้วบุ๋ม พบบ่อยที่ต้นขา สะโพก พบว่าผิวหนังดูบอบบางเห็นเส้นเลือดและบวม

Mixed Cellulite: พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งในหนึ่งคนอาจพบเซลลูไลท์ทุกแบบ ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

ซึ่งเจ้าเซลลูไลท์น่ก็มีพัฒนาการของมันนะคะ เป็นระยะๆ ดังนี้ค่ะ


ระยะที่0: เป็นระยะที่เริ่มมีพังผืดเกิดขึ้น แต่ไม่มาก ไม่สามารถสังเกตได้ทั้งจากการยืน หรือการนอนจะไม่เห็นเป็นผิวเปลือกส้มแต่อย่างใด แต่เมื่อทดลองหยิบเนื้อบริเวณนั้นขึ้นมาจะปรากฏเป็นรอยบุ๋มเกิดขึ้น

ระยะที่ 1: ยังไม่สามารถเห็นรอยบุ๋มได้เช่นเดียวกับระยะที่ 0 แต่เมื่อทดลองหยิบเนื้อขึ้นมาพบว่ามีรอยบุ๋มเพิ่มมากขึ้น

ระยะที่ 2: สามารถเห็นรอยของเซลลูไลท์ได้ชัดเจนในขณะยืนโดยไม่จำเป็นต้องจับขึ้นมาดู แต่ในขณะนอนจะยังไม่สามารถเห็นได้

ระยะที่ 3: ไม่ว่าจะยืนหรือนอนจะสามารถเห็นเป็นผิวเปลือกส้มได้ทั้งหมด เป็นระยะที่รักษายากที่สุดเพราะเกิดการสะสมของเซลลูไลท์มาในระยะเวลานานมาก

ทั้งนี้ ระยะการก่อตัวของเซลลูไลท์จะขึ้นอยู่กับกิจกรรมของแต่ละบุคคล ประกอบกับการกินอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรท ไขมัน และน้ำตาลที่มากเกินไป เป็นต้น

 คราวนี้เรามาดูกันว่า เทคโนโลยี่ใหม่ๆที่อินเทรนด์กันในการสลายเซลลูไลท์ในปัจจุบันมีอะไรกันบ้างนะคะ  สารพัดวิธีที่คนสรรหามา อ่านแล้วจะบอกว่าเหลือเชื่อเลยละค่ะ

เมโซเธอราปี (Mesotherapy)

เป็นการสลายไขมันเฉพาะส่วนด้วยการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังชั้นเมโซเดิร์ม (Mesoderm) ทำให้กระบวนการเกิดไขมันถูกขัดขวาง ทำให้ไขมันสลายตัวในที่สุด ทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 8 - 10 ครั้ง ค่าใช้จ่ายครั้งละ 2,000 - 3,000 บาทขึ้นไป

คาร์บ็อกซี เธอราปี (Carboxy Therapy, Carbondioxide Therapy)

เป็นการสลายไขมันเฉพาะส่วน ด้วยการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังเพื่อสลายเซลลูไลท์ และไขมันทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญไขมันมากขึ้น และสลายเซลลูไลท์สลายตัวไปในที่สุด ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและไขมันของผู้ต้องการลดเซลลูไลท์เป็นสำคัญ โดยเฉลี่ย ไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ค่าใช้จ่ายครั้งละประมาณ 3,000 ขึ้นไป

การนวดด้วยเครื่องอัลตร้าซาวน์ (Ultrasonic Massage)

การนวดผิว ด้วยคลื่นอัลตร้าซาวน์ (Ultrasound) โดยทายาสลายไขมันไว้ตามร่างกายส่วนที่ต้องการลดและใช้เครื่องนวดไปตามบริเวณนั้นๆ เพื่อให้ยาซึมลงไปใต้ผิวหนังได้ลึกขึ้นและช่วยสลายเซลลูไลท์ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและเซลลูไลท์ที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย แล้วแต่สถานบริการ มีตั้งแต่ 1,000-3,000 บาทขึ้นไป

การนวดแบบเอนเดอร์โมโลยี (Endermologie)

การนวดกำจัดเซลลูไลท์เฉพาะส่วน ด้วยเครื่องสูญญากาศ โดยส่วนหัวของเครื่องจะมีท่อสุญญากาศอยู่ตรงกลางและด้านข้างเป็นลูกกลิ้งคู่ขนาน เมื่อต้องการใช้งาน ท่อสุญญากาศจะทำหน้าที่ดูดผิวบริเวณที่ต้องการขึ้นมา และลูกกลิ้งด้านข้างจะทำหน้าที่นวดเนื้อบริเวณนั้น ทำติดต่อกัน 14 ครั้ง โดย 7 ครั้งแรก ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และลดลงเหลือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือตามแต่ผู้เชี่ยวชาญจะวินิจฉัย ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับสถานบริการ ครั้งละประมาณ 2,000 - 5,000 บาทขึ้นไป

การออกกำลังด้วยเครื่องโฮบอดี้ ไวเบรชั่น (Whole body Vibration Exercise)

เป็นเสมือนการออกกำลังกาย หลักการทำงานคือเมื่อยืนอยู่บนเครื่องไวเบชั่น เครื่องจะเกิดการสั่นสะเทือนทำให้ร่างกายสั่นสะเทือนตามให้ผลเหมือนการนวดตัว และสลายเซลลูไลท์ในเวลาเดียวกัน ทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 10 - 20 นาทีตามขนาดของร่างกายและปริมาณไขมัน ครั้งละ 500 บาท

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยสลายไขมันนี้สามารถคงทนอยู่ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี การออกกำลังกาย และการควบคุมอาหารจึงเป็นวิธีที่ช่วยให้เซลลูไลท์ก่อตัวช้าขึ้น .........  นอกจากนี้ การตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีเพื่อลดเซลลูไลท์ ควรได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ประจำสถาบันต่างๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์หรือวิธีการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด เพราะผู้ที่มีน้ำหนักมากหรือมีโรคประจำตัวบางประเภทอาจไม่เหมาะสมกับบางวิธี หรือบางคนอาจต้องใช้หลายๆตัวค่ะ

  เรามาลองวิธีง่ายๆในการแก้ปัญหาเซลลูไลท์ เริ่มจากเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเราเองก่อนดีกว่านะคะ ดังนี้เลยค่ะ

1. ลดการบริโภคไขมันและน้ำตาล
2. นวดเบาๆตามบริเวณที่มีเซลลูไลท์ และ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอกับร่างกายต้องกาประมาณวันละ 8 แก้ว
4. การใช้วิธีดีท็อกซ์ ทั้งอบไอน้ำ ซาวน่า
5. หันมากินอาหาร Raw Food หรือใช้วิธี Detox Liquid Diet คือดื่มแต่น้ำผักน้ำผลไม้ ซุปใส ชาสมุนไพร โดยไม่กินอะไรเลย เพื่อให้ร่างกายขับถ่ายของเสีย ทำให้ไขมันลดลงเซลลูไลต์จะน้อยลงไปด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากกลับมากินตามปกติเซลลูไลต์ก็จะกลับมาเหมือนเดิมด้วยเช่นกัน



สรุปแล้วแม่หมอว่าวิธีการที่ง่ายที่สุด ก็คือเลือกรับประทานอาหารหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน แป้งและน้ำตาล ดื่มน้ำมากๆ  และที่สำคัญต้องออกกำลังกายค่ะ  แล้วเจ้าเซลลูไลท์ก็จะค่อยๆหายไปเอง แต่ต้องทำสม่ำเสมอนะคะ หรือถ้าอยากเห็นผลเร็วจะนวดครีมสลายเซลลูไลท์ไปด้วยก็ได้ เสริมด้วยดีท๊อกซ์ อีกซักนิด ..... และขอเพียงตั้งใจทำ อย่างสม่ำเสมอและไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง.......... เซลลูไลท์ ศัตรูตัวฉกาจของสาวที่รักความงามอย่างพวกเราต้องหายไปได้อย่างแน่นอนค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อน ๆ แม่หมอสาว