วันเสาร์

แครอทอาหารเพิ่มความสวยอินเทรนด์ปีกระต่าย

อาหารเพิ่มความสวยเปิดปีกระต่าย2011 .... แม่หมอขออินเทรนด์ด้วยเมนูสุดฮิตของกระต่ายน้อยแสนน่ารักแล้วกันนะคะเพื่อนๆ นั่นก็คือแครอท 1ในเมนูความงามของแม่หมอเลยละค่ะ  ..... อันว่าแครอทนั้นเราอาจเห็นว่าเป็นผักที่มีลักษณะเป็นหัวสีส้ม แต่อันที่จริงแล้วแครอทมีหลายสีนะคะทั้งสี เหลือง ม่วง ส้ม แต่ที่นิยมกันในบ้านเราก็ต้องแครอทสีส้มซึ่ง เป็นพืชแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียกลางนี่เองแหละค่ะ  มีหลายขนาดนะคะ  แต่ที่แสนฮิตวางขายในตลาดไฮโซก็จะเป็นขนาดเล็กประมาณเท่าดินสอ ที่เรียกว่าเบบี้แครอทค่ะ


แครอท ผักมหัศจรรย์ที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะเคี้ยวแล้วกรุบกรอบ แครอทยังมีวิตามินเอสูง บำรุงสายตา แก้โรคตาฟาง มีตัวยาขับปัสสาวะ(เนื่องจากมีปริมาณเกลือโปแตสเซี่ยมสูง)  และยังสามารถใช้เป็นยาขับพยาธิไส้เดือนได้อีกด้วยนะคะ รวมถึงช่วยตับขับสารพิษออกจากร่างกายอีกต่างหากค่ะ ..... และที่สำคัญ แครอทมีสาร "เบต้าแคโรทีน" ที่ช่วยยับยั้งเซลล์ของมะเร็งและต่อต้านการสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็นต้นกำเนิดเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดีค่ะ ซึ่งเบต้าแคโรทีนนี้แหละที่จะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ เมื่อเข้าไปอยู่ในร่างกายมนุษย์  ........นอกจากนี้ แคลเซียมเพคเตทในแครอทจะช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ลดการเกิดโรคหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลว  และ แครอทยังมีฟอสฟอรัส เหล็ก มีวิตามินเอ บี1 บี2 และวิตามินซีเพียบเลยนะคะ.......ซึ่งหากใครมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้ออ่อนล้า ข้ออักเสบ กระเพาะปัสสาวะ หลอดเลือดหัวใจตีบ หรือโรคตับ แครอทก็สามารถช่วยไดด้วยะค่ะ  ....... แครอทยังช่วยบำรุงระบบประสาทและช่วยปรับภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานดีขึ้นด้วยค่ะ ........อ้อ ในทางยาพบว่าแครอทเป็นสมุนไพรพื้นบ้านของชาวอเมริกัน ใช้เป็นยาครอบจักรวาล รักษาได้หลายโรค เช่น แก้โรคประสาท โรคผิวหนัง และหืดหอบค่ะ


แต่ถ้าว่ากันถึงคุณสมบัติเพื่อความงามกันจริงๆแล้ว  แครอทจะช่วยบำรุง เส้นผม และเล็บ รวมถึงดูแลผิว เช่นลดอาการเกิดสิว ปัญหาผิวหนัง และรักษาแผลให้หายเร็วขึ้นได้ค่ะ .......   เพื่อนๆ เห็นประโยชน์ของแครอท ผักมหัศจรรย์หรือยังละคะว่ามีประโยชน์มากมายเพียงใด อย่างงี้ไม่รับประทานเห็นท่าจะไม่ได้แล้วละค่ะ


การรับประทานแครอทนั้น ถ้าเป็นเบบี้แครอทนั้นดูเหมือนจะทานง่ายกว่าแครอทหัวใหญ่ จากการที่รสชาดเฟื่อนจะน้อยกว่า รับประทานดิบก็ได้สุกก็ดีนะคะ จิ้มกับน้ำพริกก็อร่อยเด็ดเลยละค่ะ ...... ส่วนแครอทหัวใหญ่จะหั่นเป็นแท่งยาวจิ้มน้ำสลัดหรือขูดฝอยใส่รวมกับผักอื่นๆทำเป็นสลัด5สีก็กิ๊บเก๋ไม่เบานะคะ ผัดผักรวมมิตรก็อร่อย  แต่ที่คลาสสิคเห็นจะเป็นหั่นแท่งพอเหมาะแบบสุกใส่มากับจานสเต๊กนี่แหละค่ะ  ..... ส่วนเมนูสุดฮิตของแครอทวันนี้แม่หมอมี3เมนูแสนอร่อยมาฝากเพื่อนๆดังนี้ค่ะ

น้ำแครอท(คั้น)

นำแครอทเข้าเครื่องคั้นแบบแยกกากได้น้ำออกมาจะข้นเล็กน้อยก็ผสมน้ำส้มคั้นและหรือน้ำสัปปะรด น้ำมะนาว หรือน้ำแตงโม ตามใจชอบ ก็จะได้น้ำผลไม้รวมที่แสนอร่อยและมีประโยชน์มากมายเลยละค่ะ

แต่หากเพื่อนๆดื่มน้ำแครอทล้วนๆอาจมีอาการผิวเหลืองได้นะคะ จากการที่สารเบต้าแคโรทีนส่วนเกินจะถูกร่างกายนำไปสะสมกับไขมัน ส่งผลให้ผิวออกสีเหลืองได้ค่ะ แต่ไม่มีอันตรายนะคะ แล้วซักพักสีผิวก็จะกลับเป็นปกติค่ะ ..... หรือถ้าเพื่อนๆไม่ชอบผิวที่จะออกเหลืองก็ใช้สูตรที่แม่หมอบอกอะค่ะ ผสมกับน้ำผักหรือน้ำผลไม้อื่นๆลงไป ในอัตรา 3 ต่อ 1 ส่วน ปัญหาผิวเลืองก็จะไม่เกิดค่ะ

ซุปแครอท

นำแครอทมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ เก็บไว้ก่อน จากนั้นนำหอมหัวใหญ่ไปผัดกับเนย ใช้ไฟอ่อนๆ ผัดจนหอมหัวใหญ่สุกสีจะใสขึ้น ให้โรยด้วยแป้งสาลีและผัดให้เร็วขึ้นระวังอย่าให้ไหม้ ต่อมาเติมน้ำสต็อกลงไปทีละน้อยผัดให้เข้ากัน ใส่แครอทที่เราหั่นไว้แล้วลงไปแล้วจึงเทน้ำสต็อกให้หมด ต้มทิ้งไว้ด้วยไฟอ่อนๆ จนแครอทนิ่ม วางพักไว้สักครู่ .......  นำแครอทไปปั่นจนละเอียด เทกลับใส่หม้อ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย รอให้เดือด แล้วใส่นม ต้มต่อไปอีกสักครู่เป้นอันเสร็จพิธีค่ะ

เค๊กแครอท

ส่วนผสม: น้ำตาลทรายแดง600กรัม,น้ำมันพืช(น้ำมันข้าวโพด)4Dl.,ไข่ไก่8ฟอง,ผงวนิลา2ช้อนชา
อบเชยผง4ช้อนชา,เกลือ1ช้อนชา,วอร์นัท100กรัม,ผงฟู4ช้อนชา,เบกิ้งโซดา2ช้อนชา
แป้งอเนกประสงค์500กรัม,แครอทขูดฝอย700กรัม,ลูกเกดอบแห้งพอประมาณ
 เตรียมถาดรองด้วยกระดาษไข ถาดที่มากับเตาอบ - เปิดไฟเตาอบไว้180องศาเซลเซียส

จากงานวิจัยทางด้านโภชนาการล่าสุดพบว่าการหั่นแครอทหลังจากปรุงสุกแล้วจะช่วยเพิ่มปริมาณสารต้านการเกิดมะเร็งได้ถึง 25% เชียวละค่ะ ....... การต้มแครอทก่อนที่จะนำมาหั่นนั้น ตัวแครอทจะมีปริมาณสาร falcarinol ที่เป็นสารประกอบในแครอทและมีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็งมากขึ้นกว่า 25% และมากกว่าแครอทที่ถูกหั่นก่อนจะนำไปต้มเลยละค่ะ ........  และถ้าจะให้ได้คุณค่าอย่างครบถ้วน ควรกินแครอทร่วมกับอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารเบต้าแคโรทีนได้มากกว่าครึ่ง เพราะเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมันค่ะ

นอกจากนี้แล้วแครอทยังนำมาพอกหน้าได้ด้วยนะคะ

วิธีทำ นำแครอท 1 หัวเล็ก น้ำผึ้งแท้ 2-3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำโดยนำแครอทมาล้างน้ำให้สะอาด และหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปั่นรวมกับน้ำผึ้งแท้จนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกหน้าโดยพอกทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ...... ทำเป็นประจำจะช่วยลดรอยแผลเป็น และจุดด่างดำต่างๆ บนใบหน้าได้ค่ะและยังช่วยให้ผิวพรรณไร้รอยหมองคล้ำ และทำให้ผิวหน้าขาวกว่าเดิมด้วยนะคะ


แล้วอย่างนี้เพื่อนๆจะยังมองข้ามแครอทผักมหัศจรรย์ประจำปีกระต่ายอยู่อีกเหรอคะ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อน ๆ แม่หมอสาว